วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555


             คือโปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตโดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย. เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่มันคิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา ในปัจจุบัน เสิร์ชเอนจินบางตัว เช่น กูเกิล จะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหาครั้งต่อ ๆ ไป
             ประเภท Search Engine
1. Keyword Index   เป็นการค้นหาข้อมูล โดยการค้นจากข้อความในWeb Pageที่ได้ผ่านการสำรวจมาแล้ว จะอ่านข้อความ ข้อมูล อย่างน้อยๆ ก็ประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ ตัวอักษรแรกของWeb Pageนั้นๆ โดยการอ่านนี้จะหมายรวมไปถึงอ่านข้อความที่อยู่ในโครงสร้างภาษา HTML ซึ่งอยู่ในรูปแบบของข้อความที่อยู่ในคำสั่ง Alt  ซึ่งเป็นคำสั่งภายใน TAG คำสั่งของรูปภาพ แต่จะไม่นำคำสั่งของ TAG อื่นๆ ในภาษา HTML และคำสั่งในภาษา JAVA มาใช้ในการค้นหา วิธีการค้นหาของ Search Engine ประเภทนี้จะให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับข้อมูลก่อน-หลัง และความถี่ในการนำเสนอข้อมูลนั้น การค้นหาข้อมูล โดยวิธีการเช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก แต่มีความละเอียดในการจัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงรายละเอียดของเนื้อหาเท่าที่ควร แต่หากว่าต้องการแนวทางด้านกว้างของข้อมูล และความรวดเร็วในการค้นหา วิธีการนี้ก็ใช้ได้ผลดี
                        2. Subject Directories   การจำแนกหมวดหมู่ข้อมูล Search Engine ประเภทนี้ จะจัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เนื้อหา รายละเอียด ของแต่ละWeb Page ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยการจัดแบ่งแบบนี้จะใช้แรงงานคนในการพิจารณาWeb Page ซึ่งทำให้การจัดหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนจัดหมวดหมู่แต่ละคนว่าจะจัดเก็บข้อมูลนั้นๆ อยู่ในเครือข่ายข้อมูลอะไร ดังนั้นฐานข้อมูลของ Search Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเนื้อหาก่อน แล้วจึงนำมาเป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป การค้นหาค่อนข้างจะตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และมีความถูกต้องในการค้นหาสูง เป็นต้นว่า หากเราต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ หรือWeb Pageที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ Search Engine ก็จะประมวลผลรายชื่อเว็บไซต์ หรือWeb Pageที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ล้วนๆ มาให้
               3. Metasearch Engines   จุดเด่นของการค้นหาด้วยวิธีการนี้ คือ สามารถเชื่อมโยงไปยัง Search Engine ประเภทอื่นๆ และยังมีความหลากหลายของข้อมูล แต่การค้นหาด้วยวิธีนี้มีจุดด้อย คือ วิธีการนี้จะไม่ให้ความสำคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษร และมักจะผ่านเลยคำประเภท Natural Language (ภาษาพูดดังนั้น หากจะใช้ Search Engine แบบนี้ละก็ ขอให้ตระหนักถึงข้อบกพร่องเหล่านี้ด้วย
                   การทำงานของ Search Engine 
1. Spider หรือ Web Robot จะเป็นตัวที่ทำหน้าที่เข้าสำรวจเว็บไซต์ต่างๆ แล้วดึงข้อมูลเหล่านั้นมาอัพเดทใส่ในรายการฐานข้อมูล ส่วนมาก Spider มักจะเข้าไปอัพเดทข้อมูลเป็นรายเดือน
2. ฐานข้อมูล (Database) เป็นส่วนที่เก็บรายการเว็บไซต์ ฐานข้อมูลที่ดีควรจะมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะรองรับกับการเติบโตของเว็บไซต์ในปัจจุบัน การออกแบบฐานข้อมูลที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญเพราะถ้าฐานข้อมูลออกแบบมาทำงานช้าก็ทำให้การรอผลนานและจะไม่ได้รับความนิยมไปในที่สุด
3. โปรแกรม Search Engine มีหน้าที่รับคำหรือข้อความที่ผู้ใช้งานป้อนเข้ามา แล้วเข้าค้นหาตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล จากนั้นก็จะรายงานผลเว็บไซต์ที่ค้นพบให้กับผู้ใช้ การสืบค้นด้วยวิธีนี้นอกจากจะต้องมีระบบการสืบค้นข้อมูลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพแล้ว การกลั่นกรองผลที่ได้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญของการสืบค้นข้อมูล
ตัวอย่าง Search Engine
 1. เว็บไซต์ Google (www.Google.com) เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการในการค้นหาข้อมูลในโลกของอินเตอร์เน็ต โดยค้นหาข้อมูลจากข้อความ หรือตัวอักษรที่พิมพ์เข้าไป แล้วทำการค้นหาข้อมูล รูปภาพ หรือเว็บเพจที่เกี่ยวข้องนำมาแสดงผล เว็บไซต์ Google ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ต้องการค้นหาข้อมูล 
                  2. yahoo รู้รอบ (อังกฤษ: Yahoo! Answers) เป็นชุมชนออนไลน์ของyahoo เปิดให้ใช้งานในการถามและตอบคำถามในลักษณะคล้ายเว็บบอร์ด แต่มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างไปจากเว็บบอร์ดคือ เว็บบอร์ดจะเปิดให้โพสต์ข้อความอะไรก็ได้ แต่ yahoo รู้รอบจะเปิดให้ผู้ใช้งานโพสต์เฉพาะคำถามหรือคำตอบเท่านั้น โดยท้ายสุดจะมีการเลือกคำตอบที่ดีที่สุด พร้อมขอเหตุผลว่าทำไมถึงดีที่สุด พร้อมกับมีระบบสะสมแต้มและระดับความเก่งกาจของผู้ใช้งาน เปิดใช้งานเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2548 โดยมีลักษณะพิเศษคือมีการให้แต้มต่อผู้ร่วมตอบคำถาม ซึ่งผลักดันให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เว็บเปิดให้ถามคำถามและตอบคำถามในทุกลักษณะ โดยมีการจัดแบ่งหมวดหมู่ของคำถามย่อยลงไปตามหมวดหมู่

      3.  Bing.com สามารถให้คำตอบที่มีความเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยเฉพาะการช่วยให้ผู้ใช้ได้ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ วางแผนท่องเที่ยว ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ตลอดจนธุรกิจในท้องถิ่น
                   4. DOGPILE  ( www.dogpile.com ) เป็น Search Engine อีกตัวหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่า DOGPILE จะเป็นที่ 2 รองจาก GOOGLE แต่ DOGPILE ก็มีระบบการทำงานที่น่าดึงดูดใจ ที่อาจจะทำให้ผู้ใช้ GOOGLE เปลี่ยนใจได้ง่าย ๆ การค้นหาของ DOGPILE จะมีการรวบรวมผลลัพธ์จากหลายๆ เว็บเข้าไว้ด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้มาจากที่ใดที่หนึ่งเป็นหลัก บริการของ DOGPILE จะเป็นการรวบรวมลิงค์ของผลลัพธ์ที่ได้จากการค้นหามาไว้รวมกันนอกจากนี้ DOGPILE ยังมีสมุดหน้าขาวและหน้าเหลือง ที่เตรียมเอาไว้สำหรับให้ท่านค้นหาบุคคลหรือธุรกิจต่าง ๆ อีกด้วย
                5. www.ask.com  เป็น Search Engine ที่มีความสามารถในการค้นหาคำในลักษณะคำถามคำตอบได้ ASK อยู่ในส่วนแบ่งของตลาด Search Engine ประมาณ 2 % อยู่ในอันดับ 5 มีความสามารถคัดกรองประเ฿ทของการค้นหาได้ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาแผนที่ รูปภาพ ดิกชันนารี พยากรณ์อากาศ หรือไฟล์เอกสารต่างๆ ที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของผู้คนหา ซึ่งสามารถค้นหาคำเป็นประโยคคำถามโดยใช้หลักการ Neural Language เป็นลักษณะถามตอบ    ASK ใช้โปรแกรมอัตโนมัติ (Robot, Web crawler, Spider) ในการค้นหาและรวบรวมข้อมูลของเว็บไซต์ต่าง ซึ่ง Robot จะเป็นตัวที่ทำหน้าที่เข้าสำรวจเว็บไซต์ต่าง ๆ แล้วดึงข้อมูลเหล่านั้นมาอัพเดทใส่ในรายการฐานข้อมูล ส่วนมาก Robot มักจะเข้าไปอัพเดทข้อมูล ซึ่งจะเหมาะสำหรับการค้นหาข้อมูลแบบจำเพาะเจาะจง ซึ่งจะทำการ Download Page แรกจาก Web Site ต่างๆ อัตโนมัติตลอดเวลา หลังจากได้ Page แรกแล้ว จะทำการ Load Page ต่อๆ ไป ช่วงนี้จะ Delay เวลาออกไปประมาณ 0.1 วินาที ภายใน 1 ชั่วโมง และทำ Index เพื่อใช้ในการ Search หาข้อมูล โดยใช้ Full-Text ซึ่งดึงคำทุกคำในหน้าเอกสารมาทำ Index และนำหลักการของ Natural Language Processing (NLP) มาใช้ เพื่อให้ค้นหาได้โดยเป็นลักษณะคำถามคำตอบ




           คือโปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตโดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย. เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่มันคิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา ในปัจจุบัน เสิร์ชเอนจินบางตัว เช่น กูเกิล จะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหาครั้งต่อ ๆ ไป
             ประเภท Search Engine
1. Keyword Index   เป็นการค้นหาข้อมูล โดยการค้นจากข้อความในWeb Pageที่ได้ผ่านการสำรวจมาแล้ว จะอ่านข้อความ ข้อมูล อย่างน้อยๆ ก็ประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ ตัวอักษรแรกของWeb Pageนั้นๆ โดยการอ่านนี้จะหมายรวมไปถึงอ่านข้อความที่อยู่ในโครงสร้างภาษา HTML ซึ่งอยู่ในรูปแบบของข้อความที่อยู่ในคำสั่ง Alt  ซึ่งเป็นคำสั่งภายใน TAG คำสั่งของรูปภาพ แต่จะไม่นำคำสั่งของ TAG อื่นๆ ในภาษา HTML และคำสั่งในภาษา JAVA มาใช้ในการค้นหา วิธีการค้นหาของ Search Engine ประเภทนี้จะให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับข้อมูลก่อน-หลัง และความถี่ในการนำเสนอข้อมูลนั้น การค้นหาข้อมูล โดยวิธีการเช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก แต่มีความละเอียดในการจัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงรายละเอียดของเนื้อหาเท่าที่ควร แต่หากว่าต้องการแนวทางด้านกว้างของข้อมูล และความรวดเร็วในการค้นหา วิธีการนี้ก็ใช้ได้ผลดี
                        2. Subject Directories   การจำแนกหมวดหมู่ข้อมูล Search Engine ประเภทนี้ จะจัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เนื้อหา รายละเอียด ของแต่ละWeb Page ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยการจัดแบ่งแบบนี้จะใช้แรงงานคนในการพิจารณาWeb Page ซึ่งทำให้การจัดหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนจัดหมวดหมู่แต่ละคนว่าจะจัดเก็บข้อมูลนั้นๆ อยู่ในเครือข่ายข้อมูลอะไร ดังนั้นฐานข้อมูลของ Search Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเนื้อหาก่อน แล้วจึงนำมาเป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป การค้นหาค่อนข้างจะตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และมีความถูกต้องในการค้นหาสูง เป็นต้นว่า หากเราต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ หรือWeb Pageที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ Search Engine ก็จะประมวลผลรายชื่อเว็บไซต์ หรือWeb Pageที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ล้วนๆ มาให้
               3. Metasearch Engines   จุดเด่นของการค้นหาด้วยวิธีการนี้ คือ สามารถเชื่อมโยงไปยัง Search Engine ประเภทอื่นๆ และยังมีความหลากหลายของข้อมูล แต่การค้นหาด้วยวิธีนี้มีจุดด้อย คือ วิธีการนี้จะไม่ให้ความสำคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษร และมักจะผ่านเลยคำประเภท Natural Language (ภาษาพูดดังนั้น หากจะใช้ Search Engine แบบนี้ละก็ ขอให้ตระหนักถึงข้อบกพร่องเหล่านี้ด้วย
                   การทำงานของ Search Engine 
1. Spider หรือ Web Robot จะเป็นตัวที่ทำหน้าที่เข้าสำรวจเว็บไซต์ต่างๆ แล้วดึงข้อมูลเหล่านั้นมาอัพเดทใส่ในรายการฐานข้อมูล ส่วนมาก Spider มักจะเข้าไปอัพเดทข้อมูลเป็นรายเดือน
2. ฐานข้อมูล (Database) เป็นส่วนที่เก็บรายการเว็บไซต์ ฐานข้อมูลที่ดีควรจะมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะรองรับกับการเติบโตของเว็บไซต์ในปัจจุบัน การออกแบบฐานข้อมูลที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญเพราะถ้าฐานข้อมูลออกแบบมาทำงานช้าก็ทำให้การรอผลนานและจะไม่ได้รับความนิยมไปในที่สุด
3. โปรแกรม Search Engine มีหน้าที่รับคำหรือข้อความที่ผู้ใช้งานป้อนเข้ามา แล้วเข้าค้นหาตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล จากนั้นก็จะรายงานผลเว็บไซต์ที่ค้นพบให้กับผู้ใช้ การสืบค้นด้วยวิธีนี้นอกจากจะต้องมีระบบการสืบค้นข้อมูลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพแล้ว การกลั่นกรองผลที่ได้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญของการสืบค้นข้อมูล
ตัวอย่าง Search Engine
 1. เว็บไซต์ Google (www.Google.com) เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการในการค้นหาข้อมูลในโลกของอินเตอร์เน็ต โดยค้นหาข้อมูลจากข้อความ หรือตัวอักษรที่พิมพ์เข้าไป แล้วทำการค้นหาข้อมูล รูปภาพ หรือเว็บเพจที่เกี่ยวข้องนำมาแสดงผล เว็บไซต์ Google ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ต้องการค้นหาข้อมูล 
                  2. yahoo รู้รอบ (อังกฤษ: Yahoo! Answers) เป็นชุมชนออนไลน์ของyahoo เปิดให้ใช้งานในการถามและตอบคำถามในลักษณะคล้ายเว็บบอร์ด แต่มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างไปจากเว็บบอร์ดคือ เว็บบอร์ดจะเปิดให้โพสต์ข้อความอะไรก็ได้ แต่ yahoo รู้รอบจะเปิดให้ผู้ใช้งานโพสต์เฉพาะคำถามหรือคำตอบเท่านั้น โดยท้ายสุดจะมีการเลือกคำตอบที่ดีที่สุด พร้อมขอเหตุผลว่าทำไมถึงดีที่สุด พร้อมกับมีระบบสะสมแต้มและระดับความเก่งกาจของผู้ใช้งาน เปิดใช้งานเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2548 โดยมีลักษณะพิเศษคือมีการให้แต้มต่อผู้ร่วมตอบคำถาม ซึ่งผลักดันให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เว็บเปิดให้ถามคำถามและตอบคำถามในทุกลักษณะ โดยมีการจัดแบ่งหมวดหมู่ของคำถามย่อยลงไปตามหมวดหมู่

      3.  Bing.com สามารถให้คำตอบที่มีความเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยเฉพาะการช่วยให้ผู้ใช้ได้ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ วางแผนท่องเที่ยว ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ตลอดจนธุรกิจในท้องถิ่น
                   4. DOGPILE  ( www.dogpile.com ) เป็น Search Engine อีกตัวหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่า DOGPILE จะเป็นที่ 2 รองจาก GOOGLE แต่ DOGPILE ก็มีระบบการทำงานที่น่าดึงดูดใจ ที่อาจจะทำให้ผู้ใช้ GOOGLE เปลี่ยนใจได้ง่าย ๆ การค้นหาของ DOGPILE จะมีการรวบรวมผลลัพธ์จากหลายๆ เว็บเข้าไว้ด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้มาจากที่ใดที่หนึ่งเป็นหลัก บริการของ DOGPILE จะเป็นการรวบรวมลิงค์ของผลลัพธ์ที่ได้จากการค้นหามาไว้รวมกันนอกจากนี้ DOGPILE ยังมีสมุดหน้าขาวและหน้าเหลือง ที่เตรียมเอาไว้สำหรับให้ท่านค้นหาบุคคลหรือธุรกิจต่าง ๆ อีกด้วย
                5. www.ask.com  เป็น Search Engine ที่มีความสามารถในการค้นหาคำในลักษณะคำถามคำตอบได้ ASK อยู่ในส่วนแบ่งของตลาด Search Engine ประมาณ 2 % อยู่ในอันดับ 5 มีความสามารถคัดกรองประเ฿ทของการค้นหาได้ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาแผนที่ รูปภาพ ดิกชันนารี พยากรณ์อากาศ หรือไฟล์เอกสารต่างๆ ที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของผู้คนหา ซึ่งสามารถค้นหาคำเป็นประโยคคำถามโดยใช้หลักการ Neural Language เป็นลักษณะถามตอบ    ASK ใช้โปรแกรมอัตโนมัติ (Robot, Web crawler, Spider) ในการค้นหาและรวบรวมข้อมูลของเว็บไซต์ต่าง ซึ่ง Robot จะเป็นตัวที่ทำหน้าที่เข้าสำรวจเว็บไซต์ต่าง ๆ แล้วดึงข้อมูลเหล่านั้นมาอัพเดทใส่ในรายการฐานข้อมูล ส่วนมาก Robot มักจะเข้าไปอัพเดทข้อมูล ซึ่งจะเหมาะสำหรับการค้นหาข้อมูลแบบจำเพาะเจาะจง ซึ่งจะทำการ Download Page แรกจาก Web Site ต่างๆ อัตโนมัติตลอดเวลา หลังจากได้ Page แรกแล้ว จะทำการ Load Page ต่อๆ ไป ช่วงนี้จะ Delay เวลาออกไปประมาณ 0.1 วินาที ภายใน 1 ชั่วโมง และทำ Index เพื่อใช้ในการ Search หาข้อมูล โดยใช้ Full-Text ซึ่งดึงคำทุกคำในหน้าเอกสารมาทำ Index และนำหลักการของ Natural Language Processing (NLP) มาใช้ เพื่อให้ค้นหาได้โดยเป็นลักษณะคำถามคำตอบ



วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประวัติส่วนตัว

                                  
           Welcome  to  the  Blogger  KaBom


                                                       


ประวัติส่วนตัว


ชื่อ นางสาว สุจิตา    นามสกุล   ผลจันทร์    ชื่อเล่น  กะบ๋อม
เกิดวันที่  24  ธันวาคม  2535
ที่อยู่  17  หมู่ 2  ตำบลต้นผึ้ง   อำเภอพังโคน   จังหวัดสกลนคร   47160
คติ    ทุกๆ วันคือวันที่สำคัญที่สุด       กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
สถานศึกษา  มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
                     คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
                     สาขาวิชา  สารสนเทศศาสตร์
E-mail         sujita35@hotmail.com
Facebook   bombee29@hotmail.com