วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ฐานข้อมูลออฟไลน์ด้านวิทยาศาสตร์



ฐานข้อมูลออฟไลน์ด้านวิทยาศาสตร์


1ฐานข้อมูล Nursing & Allied Health       
     ให้รายละเอียดทางบรรณานุกรม ทางด้านการพยาบาล และสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง เช่น สาธารณสุขศึกษา การตรวจเชื้อโรคในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ระเบียนการรักษาพยาบาล การเฝ้าระวังโรค ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 - 1994, 1997- 2000


2 ฐานข้อมูล Food Science

      ให้ข้อมูลทางบรรณานุกรม และสาระสังเขป ของวารสาร มาตรฐาน สิทธิบัตรวิทยานิพนธ์และรายงานการประชุมฯ ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีอาหาร โภชนาการ ชีวเทคโนโลยีและวิศวกรรมอาหาร


 

3ฐานข้อมูล Life Science  

       ให้ข้อมูลทางบรรณานุกรม และสาระสังเขปของวารสาร ทางด้านวิทยาศาสตร์ ชีวภาพ และสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง เช่น พฤติกรรมสิ่งมีชีวิต ชีวเคมี เนื้อเยื่อวิทยา สิ่งแวดล้อม กีฏวิทยา พันธุกรรมศาสตร์ จุลชีววิทยา พิษวิทยา ภูมิคุ้มกัน ตั้งแต่ปี ค.ศ.  1996 -2002/03 


 4ฐานข้อมูล Chemistry Citation Index 1991 - 2000 

       เป็นฐานข้อมูลย่อยในกลุ่มของ Science Citation Index ซึ่งผลิตโดย Institute for Scientific Information (ISI) มีลักษณะเป็นฐานข้อมูลบรรณานุกรมพร้อมบทคัดย่อ จัดทำในรูปแบบ CD-ROM ตั้งแต่ปี 1991 ถึงปัจจุบัน และปรับปรุงข้อมูลทุก เดือน ครอบคลุมวารสารหลักในสาขาเคมี จำนวน300 ชื่อ และบทความวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสาขาเคมี ที่คัดเลือกมาจากวารสารอื่นๆ ในสาขาวิทยาศาสตร์ จากฐานข้อมูลScience Citation Index (SCI) ประมาณ 7,000 ชื่อ



5ฐานข้อมูล Biotechnology Citation Index 1991 - 2001                                              เป็นฐานข้อมูลย่อยในกลุ่มของ Science Citation Index ซึ่งผลิตโดย Institute for Scientific Information (ISI) มีลักษณะเป็นฐานข้อมูลบรรณานุกรมพร้อมบทคัดย่อ จัดทำในรูปแบบ CD-ROMตั้งแต่ปี 1991 ถึงปัจจุบัน และปรับปรุงข้อมูลทุก เดือน ครอบคลุมวารสารหลักในสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ จำนวน150 ชื่อ และบทความวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ ที่คัดเลือกมาจากวารสารอื่นๆ ในสาขาวิทยาศาสตร์ จากฐานข้อมูล Science Citation Index (SCI) ประมาณ7,000 ชื่อ

ฐานข้อมูลออนไลน์ด้านวิทยาศาสตร์



ฐานข้อมูลออนไลน์ด้านวิทยาศาสตร์

   Computers & Applied Sciences Complete  (EbscoHost)
         ครอบคลุมสาขาวิชาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ให้ข้อมูลตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965-ปัจจุบัน มีการเก็บรวบรวมข้อมูลความรู้ความท้าทายทางวิศวกรรมแบบดั้งเดิมและงานวิจัย และเป็นทรัพยากรเพื่องานวิจัยที่ส่งผลกระทบทางธุรกิจและสังคมของเทคโนโลยีใหม่ CASC มีดัชนีและสาระสังเขปจากจำนวนวารสารมากกว่า 2,200 รายชื่อ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลฉบับเต็มจากวารสารมากกว่า 1,020 ชื่อเรื่อง ครอบคลุมสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ทฤษฎีและระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเทคโนโลยีใหม่ 



    IEEE/IET Electronic Library (IEL)   
         สิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง เอกสารการประชุม และเอกสารมาตรฐาน ทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จาก 2 แหล่ง คือ The Institute of Electrical and Electronics Engineers (IEEE) และ The Institution of Engineering and Technology (IET) ประกอบด้วยเอกสารมากกว่า 1.2 ล้านจากสิ่งพิมพ์มากกว่า 12,000 ชื่อ ดูเอกสารฉบับเต็มได้ในช่วงปี 1988-ปัจจุบัน



   Ebrary 
    ฐานข้อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book ) มีเนื้อหาครอบคลุมสาขาวิชาทางด้านแพทยศาสตร์ พยาบาล เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  เป็นต้น จากหลายสำนักพิมพ์ทั่วโลก มีหนังสือมากกว่า 100 รายการ สามารถ Download, Copy, Print, มี Dictionary และแปลเป็นภาษาต่าง ๆได้ รวมถึงสามารถ Link ไปยังแหล่งทรัพยากรอื่น ๆได้อีกด้วย พร้อมเครื่องมือการใช้ต่าง ๆ




   iG Publishing: American Society of Health-Systems Pharmacist (ASHP)         ฐานข้อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) ของ iG Publishing มีเนื้อหาครอบคลุมสาขาวิชาเภสัชศาสตร์ สาธารณสุข
วิทยาศาสตร์สุขภาพ  เป็นต้น มีสมาชิกเป็นผู้เชียวชาญเกี่ยวกับองค์กรเภสัชกรรม เภสัชกร พยาบาลอาชีพเป็นสมาชิกอยู่ทั่วโลก สามารถ Copy, Print, Download, แปลเป็นภาษาต่าง ๆ ได้ พร้อมทั้ง Dictionary  และ Function การใช้งานอื่น ๆ (ระยะเวลาเข้าใช้ 2 ก.ค. 55- 1 ก.ค. 56)




   Uptodate         ฐานข้อมูลทางการแพทย์ ให้ความรู้ทางคลีนิกเฉพาะที่ช่วยให้แพทย์ตัดสินใจที่เหมาะสมในการรักษา เนื้อหาเขียนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากกว่า 4,800 คน รวมทั้งมีกองบรรณาธิการพิจารณาเนื้อหาเพื่อคุณภาพและความถูกต้อง



  วิธีการดูแลรักษารองเท้า 


      ของสำคัญคู่กายในชีวิตประจำวัน ที่นอกจากจะช่วยป้องกันเท้าสวยไม่ให้บาดเจ็บจากการเดินการวิ่ง ยังถือเป็นอีกสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้คุณมั่นใจ ดูสวยสง่าขึ้นง่ายๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่สาวกระเป๋าหนักหลายคน จะทุ่มเงินซื้อรองเท้าราคาหลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น! มาสวมเดินเพลินอารมณ์

      ของสำคัญคู่กายในชีวิตประจำวัน ที่นอกจากจะช่วยป้องกันเท้าสวยไม่ให้บาดเจ็บจากการเดินการวิ่ง ยังถือเป็นอีกสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้คุณมั่นใจ ดูสวยสง่าขึ้นง่ายๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่สาวกระเป๋าหนักหลายคน จะทุ่มเงินซื้อรองเท้าราคาหลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น! มาสวมเดินเพลินอารมณ์
      
 

“ปัญหาเกี่ยวกับรองเท้าที่ลูกค้าพบมาก และมาใช้บริการกับทางร้าน ในส่วนของรองเท้าผู้หญิงจะมาด้วยอาการส้นรองเท้าพัง ส้นถลอก จุกส้นรองเท้าหลุด และส่วนของผู้ชาย ที่ลูกค้านำมาให้ร้านเราดูแลเยอะที่สุดจะเป็นรองเท้าสนี๊กเกอร์ (Sneaker = รองเท้าผ้าใบส้นยาง) ที่นำมาเปลี่ยนพื้นรองเท้า” กูรู สิรัชชา เกริ่นให้ทราบถึงปัญหารองเท้าที่ลูกค้าร้านเธอ พบเจอกันเป็นประจำ
      
       
ผู้เชี่ยวชาญด้านรองเท้าอธิบายต่อว่า โดยทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าที่ทำจากหนังวัว หนังแกะ หรือผ้าใบ จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี หลังจากนั้น หนังของรองเท้าจะเริ่มเสื่อม กาวเริ่มหมดคุณภาพ จึงถึงเวลาปลดระวางรองเท้าคู่เก่ากัน ทว่ารองเท้าหลายคู่กลับมีอายุการใช้งานสั้นกว่านั้น เนื่องมาจากการเก็บรักษา หรือทำความสะอาดไม่ถูกวิธี กูรูหน้าสวยจึงจัดเต็มวิธีดูแลรองเท้าแต่ละประเภทมาให้
       หนังกลับ-หนังแกะ สวยเท่ห์ แต่ดูแลยาก

       คุณมินอธิบายถึงรองเท้าประเภทแรกที่เรียกได้ว่าสวยเท่ห์ แต่ดูแลค่อนข้างยาก นั่นคือ รองเท้าหนังกลับ และรองเท้าหนังแกะ
      
       
“พวกหนังกลับ จะดูแลยากมาก เมื่อใส่รองเท้าขับรถ ปัญหาที่พบบ่อยก็คือ ส้นรองเท้า กับหน้ารองเท้าจะดำ และตัวหนังกลับทำความสะอาดยากมาก แม้กระทั่งหากมาทำที่ร้านเรา ถ้าจะดูดสิ่งสกปรกออกมาจากรองเท้าให้หมด เราต้องมีการลงน้ำยาทำความสะอาดบางๆ ค่อยๆ ทำหลายครั้งมาก..กว่าจะทำความสะอาดได้หมด เช่นเดียวกับหนังแกะ ซึ่งจะคล้ายกับหนังกลับ ตรงที่มีความนิ่มอยู่ในตัว ถ้าลงน้ำยาทำความสะอาดไม่ดี สีก็จะหลุด หนังแกะเป็นสีที่หลุดง่ายที่สุดในบรรดาหนังทุกชนิด
      
       
สำหรับการดูแลเบื้องต้น เมื่อเกิดคราบเปื้อนเล็กๆ น้อยๆ ถ้าเป็นหนังแกะ อาจเอาผ้าชุบน้ำอุ่นไม่ต้องลงน้ำยา เช็ดบางๆ คราบสกปรกก็จะหลุดอยู่แล้ว แต่ต้องใช้น้ำอุ่นเท่านั้นนะคะ เพราะน้ำเย็นจะทำลายสี ส่วนหนังกลับ ถ้าจะดูแลเองเกือบไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงแนะนำเบื้องต้นว่า ให้หลีกเลี่ยงน้ำ อย่าไปลุยน้ำจังๆ หากฝนตก ให้เปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะจะดีกว่า เพราะหนังกลับเขาดูแลรักษายากจริงๆ"
       หนังวัว-หนังแก้ว ดูแลไม่ยาก แต่ต้องระวังการเก็บรักษา

       รองเท้าหนังวัวและรองเท้าหนังแก้ว ถือเป็นรองเท้าอีกประเภทที่สาวเราใช้กันมาก และการดูแลรักษาก็ไม่ยากเย็น เพียงแต่ต้องคำนึงถึงการเก็บรักษาให้เหมาะสมเสียหน่อย
      
       
“หนังวัว..ดูแลง่ายที่สุด เบื้องต้นคือ เมื่อกลับเข้ามาบ้าน ถ้าจะเช็ดทำความสะอาด ก็อย่าใช้น้ำยาที่มีความรุนแรงสูง เพราะหากน้ำยามีความรุนแรง พอเช็ดไปแล้วจะเกิดเป็นรอยด่าง พอเกิดรอยด่างจะแก้ไขได้ยาก ต้องเอามาให้ที่ร้านทำสีอย่างเดียวเท่านั้น เราจึงแนะนำว่า ให้ใช้นำอุณหภูมิปกติ เช็ดทำความสะอาดแค่นั้นคราบสกปรกก็ออกแล้ว”
      
       
ทว่าแม้จะทำความสะอาดง่าย แต่มักเกิดรอยยับรอยย่นขึ้นกับรองเท้าหนังวัว คุณมินจึงให้วิธีแก้ริ้วรอยมาว่า
      
       
“ถ้าจะลบรอยด้วยตัวเอง ให้หาฟองน้ำนุ่มเนื้อละเอียด เช่น ฟองน้ำสำหรับเกลี่ยรองพื้น มาลงน้ำยาสำหรับหนังชนิดนั้นๆ แล้วหมุนวนไปช้าๆ เบาๆ ก็จะช่วยลดรอยเบื้องต้นได้ แต่ข้อสำคัญคือ ฟองน้ำต้องนิ่มมาก และเวลาทำต้องใจเย็น ค่อยๆ ทำ”
      
       
ส่วนรองเท้าหนังแก้ว การดูแลรักษาความสะอาดก็สามารถทำได้เช่นเดียวกับหนังวัว แต่ต้องใส่ใจให้มากในเรื่องการเก็บรักษาค่ะ
      
       
“หนังแก้วจะมีการดูดสีง่ายที่สุด หนังแก้วกับพลาสติก วางใกล้กันเมื่อไหร่ สีจะดูดเข้าไป กลายเป็นเรื่องใหญ่มาก ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากทำสีใหม่ ซึ่งการทำสีหนังแก้ว ก็จะมีราคาสูงกว่าการทำสีแบบอื่นๆ ด้วย ดังนั้นจึงต้องเข้มงวดกับการเก็บรักษา นั่นคือ อย่าวางรองเท้าหนังแก้ว ติดกับรองเท้าคู่อื่นๆ ถ้าต้องวางรวมกับคู่อื่น ก็ควรเอากระดาษห่อรองเท้าหนังแก้วไว้ รวมถึงไม่ควรเก็บลงกล่องรองเท้าที่อับ ไม่มีการระบาย เพราะจะยิ่งทำให้รองเท้าประเภทนี้อับ บวม และสามารถเปลี่ยนสีได้ง่าย”
       รองเท้าผ้าใบ ซักเองง่ายๆ แต่ต้องใจเย็น

       “รองเท้าที่ลูกค้าจะดูแลเองได้ง่ายที่สุดคือผ้า เพราะมันง่ายต่อการซักด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องระวังเรื่องของการเปลี่ยนสี โดยเฉพาะรองเท้าสีขาว ที่อาจเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้ การห่อกระดาษทิชชู่ขณะตาก ก็จะช่วยลดอัตราการเปลี่ยนสีรองเท้าจากสีขาวเป็นสีเหลืองได้ นอกจากนี้การซักก็ต้องห้ามซักโดนบริเวณขอบยาง เพราะตรงนั้นจะมีรอยกาวด้านข้างอยู่ หากไปซักโดนมันอาจจะหลุดออกมาโดนผ้า และกลายเป็นรอยกาวสีเหลืองได้”
      
       
หมอรองเท้าคนสวยอธิบายต่อว่า การซักรองเท้าที่ทำจากผ้า ควรนำสบู่อ่อนๆ ผสมน้ำ แล้วใช้แปรงสีฟันถูทีละเล็กทีละน้อย ข้อสำคัญคือ ต้องทำอย่างใจเย็น มิเช่นนั้น อาจเกิดผลเสียเกินคาด
      
       
“การซักรองเท้าผ้า ให้เอาสบู่อ่อนๆ เช่น สบู่เด็กผสมน้ำแค่นั้นก็พอแล้ว แต่ถ้าจะใช้เป็นผงซักฟอก ก็ต้องผสมน้ำเยอะๆ และสิ่งสำคัญคือ แปรงที่ใช้ขัด คนชอบเข้าใจว่า ยิ่งแปรงหัวแข็งเท่าไหร่ ยิ่งเอาความสกปรกออกได้เยอะเท่านั้น จริงๆ มันจะส่งผลให้ด้ายรัน เกิดเป็นรอยถลอกได้ ซึ่งหลายคนเข้าใจว่า ผ้าถลอกไม่ได้ แต่จริงๆ ผ้าถลอกได้ และซ่อมไม่ได้ จะไม่เหมือนหนัง เพราะหนังจะสามารถหาลักษณะหนังใกล้เคียงมาเย็บ หรือทำสีให้มันใกล้เคียงได้ แต่พอเป็นผ้า มันเป็นการทอของแต่ละโรงงาน ซึ่งเราหาเนื้อผ้ามาปะเข้าไปไม่ได้แน่นอน เช่น สมมุติเป็นผ้าที่มีโลโก้ของยี่ห้อ Gucci เราก็ไม่สามารถหาผ้าทอที่เหมือนได้อยู่แล้ว ถ้าเราต้องไปเอาผ้าที่ใกล้เคียงกันมาเปลี่ยน มันก็ออกมาไม่สวยอยู่ดี
      
       
แปรงที่ใช้ขัด ควรเป็นแปรงสีฟันหัวนิ่มๆ ค่อยๆ ทำ เพราะการขัดรองเท้าต้องใจเย็น ถ้าใจร้อนรองเท้ามันจะถลอกหมด และน้ำอาจจะเยิ้มจนกาวที่ขอบออกมาโดนเนื้อผ้า และที่สำคัญคือ ไม่ควรตักน้ำราดลงบนรองเท้าเด็ดขาด ให้ค่อยๆ แปรงทีละนิด เช่น ตักน้ำมา 1 ขันเอาแปรงสีฟันจุ่มน้ำสบู่ แล้วค่อยๆ ถูไปทีละนิด นอกจากนี้ยังควรสังเกตดูด้วยว่า หากเป็นด้ายคนละสีก็ต้องทำความสะอาดทีละส่วน เช่น หากมีขอบด้ายสีดำ ก็ต้องเว้นขอบสีดำนั้นไว้ก่อน อย่าแปรงรวมกัน ไม่อย่างนั้นสีดำอาจจะไปติดด้ายสีขาว”
      
       
นอกจากนั้น ต้องใส่ใจไปถึงกรรมวิธีการตากด้วย
      
       
“การตากให้แห้ง ไม่แนะนำให้ตากแดดแรง หลายคนเข้าใจว่าตากแดดแรง เพื่อลดกลิ่น แต่ความจริงคือ มันจะทำให้รองเท้าเหลือง ที่แนะนำคือ ควรตากแดดอ่อนๆ เท่านั้น ส่วนพื้นรองเท้า สามารซักเองได้ที่บ้าน โดยงัดพื้นออกมาทำความสะอาดได้เลย และสามารถตากแดดแรงได้ เพราะแม้สีจะซีดไปบ้าง ก็ไม่มีผลต่อการมองเห็นอยู่แล้ว ดังนั้นก็สามารถตากแดดลดกลิ่นได้เต็มที่ ในส่วนของพื้นรองเท้า” เจ้าของร้านโมโมโกะ อธิบายเกร็ดเล็กๆ ในการทำความสะอาดรองเท้าผ้าใบให้สะอาดเนี้ยบนิ้ง
       

วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555


             คือโปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตโดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย. เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่มันคิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา ในปัจจุบัน เสิร์ชเอนจินบางตัว เช่น กูเกิล จะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหาครั้งต่อ ๆ ไป
             ประเภท Search Engine
1. Keyword Index   เป็นการค้นหาข้อมูล โดยการค้นจากข้อความในWeb Pageที่ได้ผ่านการสำรวจมาแล้ว จะอ่านข้อความ ข้อมูล อย่างน้อยๆ ก็ประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ ตัวอักษรแรกของWeb Pageนั้นๆ โดยการอ่านนี้จะหมายรวมไปถึงอ่านข้อความที่อยู่ในโครงสร้างภาษา HTML ซึ่งอยู่ในรูปแบบของข้อความที่อยู่ในคำสั่ง Alt  ซึ่งเป็นคำสั่งภายใน TAG คำสั่งของรูปภาพ แต่จะไม่นำคำสั่งของ TAG อื่นๆ ในภาษา HTML และคำสั่งในภาษา JAVA มาใช้ในการค้นหา วิธีการค้นหาของ Search Engine ประเภทนี้จะให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับข้อมูลก่อน-หลัง และความถี่ในการนำเสนอข้อมูลนั้น การค้นหาข้อมูล โดยวิธีการเช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก แต่มีความละเอียดในการจัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงรายละเอียดของเนื้อหาเท่าที่ควร แต่หากว่าต้องการแนวทางด้านกว้างของข้อมูล และความรวดเร็วในการค้นหา วิธีการนี้ก็ใช้ได้ผลดี
                        2. Subject Directories   การจำแนกหมวดหมู่ข้อมูล Search Engine ประเภทนี้ จะจัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เนื้อหา รายละเอียด ของแต่ละWeb Page ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยการจัดแบ่งแบบนี้จะใช้แรงงานคนในการพิจารณาWeb Page ซึ่งทำให้การจัดหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนจัดหมวดหมู่แต่ละคนว่าจะจัดเก็บข้อมูลนั้นๆ อยู่ในเครือข่ายข้อมูลอะไร ดังนั้นฐานข้อมูลของ Search Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเนื้อหาก่อน แล้วจึงนำมาเป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป การค้นหาค่อนข้างจะตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และมีความถูกต้องในการค้นหาสูง เป็นต้นว่า หากเราต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ หรือWeb Pageที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ Search Engine ก็จะประมวลผลรายชื่อเว็บไซต์ หรือWeb Pageที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ล้วนๆ มาให้
               3. Metasearch Engines   จุดเด่นของการค้นหาด้วยวิธีการนี้ คือ สามารถเชื่อมโยงไปยัง Search Engine ประเภทอื่นๆ และยังมีความหลากหลายของข้อมูล แต่การค้นหาด้วยวิธีนี้มีจุดด้อย คือ วิธีการนี้จะไม่ให้ความสำคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษร และมักจะผ่านเลยคำประเภท Natural Language (ภาษาพูดดังนั้น หากจะใช้ Search Engine แบบนี้ละก็ ขอให้ตระหนักถึงข้อบกพร่องเหล่านี้ด้วย
                   การทำงานของ Search Engine 
1. Spider หรือ Web Robot จะเป็นตัวที่ทำหน้าที่เข้าสำรวจเว็บไซต์ต่างๆ แล้วดึงข้อมูลเหล่านั้นมาอัพเดทใส่ในรายการฐานข้อมูล ส่วนมาก Spider มักจะเข้าไปอัพเดทข้อมูลเป็นรายเดือน
2. ฐานข้อมูล (Database) เป็นส่วนที่เก็บรายการเว็บไซต์ ฐานข้อมูลที่ดีควรจะมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะรองรับกับการเติบโตของเว็บไซต์ในปัจจุบัน การออกแบบฐานข้อมูลที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญเพราะถ้าฐานข้อมูลออกแบบมาทำงานช้าก็ทำให้การรอผลนานและจะไม่ได้รับความนิยมไปในที่สุด
3. โปรแกรม Search Engine มีหน้าที่รับคำหรือข้อความที่ผู้ใช้งานป้อนเข้ามา แล้วเข้าค้นหาตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล จากนั้นก็จะรายงานผลเว็บไซต์ที่ค้นพบให้กับผู้ใช้ การสืบค้นด้วยวิธีนี้นอกจากจะต้องมีระบบการสืบค้นข้อมูลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพแล้ว การกลั่นกรองผลที่ได้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญของการสืบค้นข้อมูล
ตัวอย่าง Search Engine
 1. เว็บไซต์ Google (www.Google.com) เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการในการค้นหาข้อมูลในโลกของอินเตอร์เน็ต โดยค้นหาข้อมูลจากข้อความ หรือตัวอักษรที่พิมพ์เข้าไป แล้วทำการค้นหาข้อมูล รูปภาพ หรือเว็บเพจที่เกี่ยวข้องนำมาแสดงผล เว็บไซต์ Google ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ต้องการค้นหาข้อมูล 
                  2. yahoo รู้รอบ (อังกฤษ: Yahoo! Answers) เป็นชุมชนออนไลน์ของyahoo เปิดให้ใช้งานในการถามและตอบคำถามในลักษณะคล้ายเว็บบอร์ด แต่มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างไปจากเว็บบอร์ดคือ เว็บบอร์ดจะเปิดให้โพสต์ข้อความอะไรก็ได้ แต่ yahoo รู้รอบจะเปิดให้ผู้ใช้งานโพสต์เฉพาะคำถามหรือคำตอบเท่านั้น โดยท้ายสุดจะมีการเลือกคำตอบที่ดีที่สุด พร้อมขอเหตุผลว่าทำไมถึงดีที่สุด พร้อมกับมีระบบสะสมแต้มและระดับความเก่งกาจของผู้ใช้งาน เปิดใช้งานเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2548 โดยมีลักษณะพิเศษคือมีการให้แต้มต่อผู้ร่วมตอบคำถาม ซึ่งผลักดันให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เว็บเปิดให้ถามคำถามและตอบคำถามในทุกลักษณะ โดยมีการจัดแบ่งหมวดหมู่ของคำถามย่อยลงไปตามหมวดหมู่

      3.  Bing.com สามารถให้คำตอบที่มีความเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยเฉพาะการช่วยให้ผู้ใช้ได้ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ วางแผนท่องเที่ยว ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ตลอดจนธุรกิจในท้องถิ่น
                   4. DOGPILE  ( www.dogpile.com ) เป็น Search Engine อีกตัวหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่า DOGPILE จะเป็นที่ 2 รองจาก GOOGLE แต่ DOGPILE ก็มีระบบการทำงานที่น่าดึงดูดใจ ที่อาจจะทำให้ผู้ใช้ GOOGLE เปลี่ยนใจได้ง่าย ๆ การค้นหาของ DOGPILE จะมีการรวบรวมผลลัพธ์จากหลายๆ เว็บเข้าไว้ด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้มาจากที่ใดที่หนึ่งเป็นหลัก บริการของ DOGPILE จะเป็นการรวบรวมลิงค์ของผลลัพธ์ที่ได้จากการค้นหามาไว้รวมกันนอกจากนี้ DOGPILE ยังมีสมุดหน้าขาวและหน้าเหลือง ที่เตรียมเอาไว้สำหรับให้ท่านค้นหาบุคคลหรือธุรกิจต่าง ๆ อีกด้วย
                5. www.ask.com  เป็น Search Engine ที่มีความสามารถในการค้นหาคำในลักษณะคำถามคำตอบได้ ASK อยู่ในส่วนแบ่งของตลาด Search Engine ประมาณ 2 % อยู่ในอันดับ 5 มีความสามารถคัดกรองประเ฿ทของการค้นหาได้ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาแผนที่ รูปภาพ ดิกชันนารี พยากรณ์อากาศ หรือไฟล์เอกสารต่างๆ ที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของผู้คนหา ซึ่งสามารถค้นหาคำเป็นประโยคคำถามโดยใช้หลักการ Neural Language เป็นลักษณะถามตอบ    ASK ใช้โปรแกรมอัตโนมัติ (Robot, Web crawler, Spider) ในการค้นหาและรวบรวมข้อมูลของเว็บไซต์ต่าง ซึ่ง Robot จะเป็นตัวที่ทำหน้าที่เข้าสำรวจเว็บไซต์ต่าง ๆ แล้วดึงข้อมูลเหล่านั้นมาอัพเดทใส่ในรายการฐานข้อมูล ส่วนมาก Robot มักจะเข้าไปอัพเดทข้อมูล ซึ่งจะเหมาะสำหรับการค้นหาข้อมูลแบบจำเพาะเจาะจง ซึ่งจะทำการ Download Page แรกจาก Web Site ต่างๆ อัตโนมัติตลอดเวลา หลังจากได้ Page แรกแล้ว จะทำการ Load Page ต่อๆ ไป ช่วงนี้จะ Delay เวลาออกไปประมาณ 0.1 วินาที ภายใน 1 ชั่วโมง และทำ Index เพื่อใช้ในการ Search หาข้อมูล โดยใช้ Full-Text ซึ่งดึงคำทุกคำในหน้าเอกสารมาทำ Index และนำหลักการของ Natural Language Processing (NLP) มาใช้ เพื่อให้ค้นหาได้โดยเป็นลักษณะคำถามคำตอบ




           คือโปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตโดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย. เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่มันคิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา ในปัจจุบัน เสิร์ชเอนจินบางตัว เช่น กูเกิล จะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหาครั้งต่อ ๆ ไป
             ประเภท Search Engine
1. Keyword Index   เป็นการค้นหาข้อมูล โดยการค้นจากข้อความในWeb Pageที่ได้ผ่านการสำรวจมาแล้ว จะอ่านข้อความ ข้อมูล อย่างน้อยๆ ก็ประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ ตัวอักษรแรกของWeb Pageนั้นๆ โดยการอ่านนี้จะหมายรวมไปถึงอ่านข้อความที่อยู่ในโครงสร้างภาษา HTML ซึ่งอยู่ในรูปแบบของข้อความที่อยู่ในคำสั่ง Alt  ซึ่งเป็นคำสั่งภายใน TAG คำสั่งของรูปภาพ แต่จะไม่นำคำสั่งของ TAG อื่นๆ ในภาษา HTML และคำสั่งในภาษา JAVA มาใช้ในการค้นหา วิธีการค้นหาของ Search Engine ประเภทนี้จะให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับข้อมูลก่อน-หลัง และความถี่ในการนำเสนอข้อมูลนั้น การค้นหาข้อมูล โดยวิธีการเช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก แต่มีความละเอียดในการจัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงรายละเอียดของเนื้อหาเท่าที่ควร แต่หากว่าต้องการแนวทางด้านกว้างของข้อมูล และความรวดเร็วในการค้นหา วิธีการนี้ก็ใช้ได้ผลดี
                        2. Subject Directories   การจำแนกหมวดหมู่ข้อมูล Search Engine ประเภทนี้ จะจัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เนื้อหา รายละเอียด ของแต่ละWeb Page ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยการจัดแบ่งแบบนี้จะใช้แรงงานคนในการพิจารณาWeb Page ซึ่งทำให้การจัดหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนจัดหมวดหมู่แต่ละคนว่าจะจัดเก็บข้อมูลนั้นๆ อยู่ในเครือข่ายข้อมูลอะไร ดังนั้นฐานข้อมูลของ Search Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเนื้อหาก่อน แล้วจึงนำมาเป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป การค้นหาค่อนข้างจะตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และมีความถูกต้องในการค้นหาสูง เป็นต้นว่า หากเราต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ หรือWeb Pageที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ Search Engine ก็จะประมวลผลรายชื่อเว็บไซต์ หรือWeb Pageที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ล้วนๆ มาให้
               3. Metasearch Engines   จุดเด่นของการค้นหาด้วยวิธีการนี้ คือ สามารถเชื่อมโยงไปยัง Search Engine ประเภทอื่นๆ และยังมีความหลากหลายของข้อมูล แต่การค้นหาด้วยวิธีนี้มีจุดด้อย คือ วิธีการนี้จะไม่ให้ความสำคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษร และมักจะผ่านเลยคำประเภท Natural Language (ภาษาพูดดังนั้น หากจะใช้ Search Engine แบบนี้ละก็ ขอให้ตระหนักถึงข้อบกพร่องเหล่านี้ด้วย
                   การทำงานของ Search Engine 
1. Spider หรือ Web Robot จะเป็นตัวที่ทำหน้าที่เข้าสำรวจเว็บไซต์ต่างๆ แล้วดึงข้อมูลเหล่านั้นมาอัพเดทใส่ในรายการฐานข้อมูล ส่วนมาก Spider มักจะเข้าไปอัพเดทข้อมูลเป็นรายเดือน
2. ฐานข้อมูล (Database) เป็นส่วนที่เก็บรายการเว็บไซต์ ฐานข้อมูลที่ดีควรจะมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะรองรับกับการเติบโตของเว็บไซต์ในปัจจุบัน การออกแบบฐานข้อมูลที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญเพราะถ้าฐานข้อมูลออกแบบมาทำงานช้าก็ทำให้การรอผลนานและจะไม่ได้รับความนิยมไปในที่สุด
3. โปรแกรม Search Engine มีหน้าที่รับคำหรือข้อความที่ผู้ใช้งานป้อนเข้ามา แล้วเข้าค้นหาตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล จากนั้นก็จะรายงานผลเว็บไซต์ที่ค้นพบให้กับผู้ใช้ การสืบค้นด้วยวิธีนี้นอกจากจะต้องมีระบบการสืบค้นข้อมูลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพแล้ว การกลั่นกรองผลที่ได้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญของการสืบค้นข้อมูล
ตัวอย่าง Search Engine
 1. เว็บไซต์ Google (www.Google.com) เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการในการค้นหาข้อมูลในโลกของอินเตอร์เน็ต โดยค้นหาข้อมูลจากข้อความ หรือตัวอักษรที่พิมพ์เข้าไป แล้วทำการค้นหาข้อมูล รูปภาพ หรือเว็บเพจที่เกี่ยวข้องนำมาแสดงผล เว็บไซต์ Google ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ต้องการค้นหาข้อมูล 
                  2. yahoo รู้รอบ (อังกฤษ: Yahoo! Answers) เป็นชุมชนออนไลน์ของyahoo เปิดให้ใช้งานในการถามและตอบคำถามในลักษณะคล้ายเว็บบอร์ด แต่มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างไปจากเว็บบอร์ดคือ เว็บบอร์ดจะเปิดให้โพสต์ข้อความอะไรก็ได้ แต่ yahoo รู้รอบจะเปิดให้ผู้ใช้งานโพสต์เฉพาะคำถามหรือคำตอบเท่านั้น โดยท้ายสุดจะมีการเลือกคำตอบที่ดีที่สุด พร้อมขอเหตุผลว่าทำไมถึงดีที่สุด พร้อมกับมีระบบสะสมแต้มและระดับความเก่งกาจของผู้ใช้งาน เปิดใช้งานเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2548 โดยมีลักษณะพิเศษคือมีการให้แต้มต่อผู้ร่วมตอบคำถาม ซึ่งผลักดันให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เว็บเปิดให้ถามคำถามและตอบคำถามในทุกลักษณะ โดยมีการจัดแบ่งหมวดหมู่ของคำถามย่อยลงไปตามหมวดหมู่

      3.  Bing.com สามารถให้คำตอบที่มีความเป็นธรรมชาติมากกว่า โดยเฉพาะการช่วยให้ผู้ใช้ได้ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ วางแผนท่องเที่ยว ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ตลอดจนธุรกิจในท้องถิ่น
                   4. DOGPILE  ( www.dogpile.com ) เป็น Search Engine อีกตัวหนึ่ง ซึ่งถึงแม้ว่า DOGPILE จะเป็นที่ 2 รองจาก GOOGLE แต่ DOGPILE ก็มีระบบการทำงานที่น่าดึงดูดใจ ที่อาจจะทำให้ผู้ใช้ GOOGLE เปลี่ยนใจได้ง่าย ๆ การค้นหาของ DOGPILE จะมีการรวบรวมผลลัพธ์จากหลายๆ เว็บเข้าไว้ด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้มาจากที่ใดที่หนึ่งเป็นหลัก บริการของ DOGPILE จะเป็นการรวบรวมลิงค์ของผลลัพธ์ที่ได้จากการค้นหามาไว้รวมกันนอกจากนี้ DOGPILE ยังมีสมุดหน้าขาวและหน้าเหลือง ที่เตรียมเอาไว้สำหรับให้ท่านค้นหาบุคคลหรือธุรกิจต่าง ๆ อีกด้วย
                5. www.ask.com  เป็น Search Engine ที่มีความสามารถในการค้นหาคำในลักษณะคำถามคำตอบได้ ASK อยู่ในส่วนแบ่งของตลาด Search Engine ประมาณ 2 % อยู่ในอันดับ 5 มีความสามารถคัดกรองประเ฿ทของการค้นหาได้ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาแผนที่ รูปภาพ ดิกชันนารี พยากรณ์อากาศ หรือไฟล์เอกสารต่างๆ ที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของผู้คนหา ซึ่งสามารถค้นหาคำเป็นประโยคคำถามโดยใช้หลักการ Neural Language เป็นลักษณะถามตอบ    ASK ใช้โปรแกรมอัตโนมัติ (Robot, Web crawler, Spider) ในการค้นหาและรวบรวมข้อมูลของเว็บไซต์ต่าง ซึ่ง Robot จะเป็นตัวที่ทำหน้าที่เข้าสำรวจเว็บไซต์ต่าง ๆ แล้วดึงข้อมูลเหล่านั้นมาอัพเดทใส่ในรายการฐานข้อมูล ส่วนมาก Robot มักจะเข้าไปอัพเดทข้อมูล ซึ่งจะเหมาะสำหรับการค้นหาข้อมูลแบบจำเพาะเจาะจง ซึ่งจะทำการ Download Page แรกจาก Web Site ต่างๆ อัตโนมัติตลอดเวลา หลังจากได้ Page แรกแล้ว จะทำการ Load Page ต่อๆ ไป ช่วงนี้จะ Delay เวลาออกไปประมาณ 0.1 วินาที ภายใน 1 ชั่วโมง และทำ Index เพื่อใช้ในการ Search หาข้อมูล โดยใช้ Full-Text ซึ่งดึงคำทุกคำในหน้าเอกสารมาทำ Index และนำหลักการของ Natural Language Processing (NLP) มาใช้ เพื่อให้ค้นหาได้โดยเป็นลักษณะคำถามคำตอบ



วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประวัติส่วนตัว

                                  
           Welcome  to  the  Blogger  KaBom


                                                       


ประวัติส่วนตัว


ชื่อ นางสาว สุจิตา    นามสกุล   ผลจันทร์    ชื่อเล่น  กะบ๋อม
เกิดวันที่  24  ธันวาคม  2535
ที่อยู่  17  หมู่ 2  ตำบลต้นผึ้ง   อำเภอพังโคน   จังหวัดสกลนคร   47160
คติ    ทุกๆ วันคือวันที่สำคัญที่สุด       กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
สถานศึกษา  มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
                     คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
                     สาขาวิชา  สารสนเทศศาสตร์
E-mail         sujita35@hotmail.com
Facebook   bombee29@hotmail.com