วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

บุคลิกภาพ



การพัฒนาบุคลิกภาพ

เป็นการทำให้รู้จักตนเองก่อนเป็นประการแรกว่า เราเป็นบุคคลประเภทใด มีคุณลักษณะอย่างไร มีข้อดี ข้อเสีย รู้จักหลักในการดำเนินชีวิตประจำวัน ในการทำงานและการเข้าสังคมอย่างไร สิ่งสำคัญที่เป็นพื้นฐานในการพัฒนาบุคลิกภาพคือ ความเป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพดี ต้องมีส่วนประกอบที่สำคัญทางด้านร่างกายที่สมบูรณ์และจิตใจที่ดี จึงต้องอาศัยสุขภาพที่ดี กล่าวคือ มีร่างกายแข็งแรง รูปร่างสมส่วน มีความคล่องตัว ว่องไว ปรับตัวได้ง่าย ดังนั้น บุคคลทุกคนสามารถพัฒนาบุคลิกภาพได้โดยกระทำ ดังนี้
  1. การบริหารร่างกายเป็นประจำ คือการรู้จักออกกำลังกายโดยการกระทำกิจกรรมที่ร่างกายมีการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อได้มีการออกแรงทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น มีเหงื่อออกมากกว่าปกติ
  2. รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อการบำรุงร่างกาย ตามหลักโภชนาการที่ให้รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และมีปริมาณที่เพียงพอแก่ร่างกาย
  3. พักผ่อนร่างกาย จัดให้มีเวลาพักผ่อนร่างกายพอสมควร ภายหลังจากการเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานประจำวัน มีเวลานอนพอเหมาะกับวัย
  4. บริหารจิตใจ เป็นการฝึกจิตใจให้มีสมาธิ มีพลัง มีความคิด
  5. พักผ่อนในวันสุดสัปดาห์ เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเครียดและเป็นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้มีจิตใจแจ่มใส ปลอดโปร่งสามารถกลับมาทำงานได้ด้วยความสดใส


    บุคลิกภาพและความสำเร็จ

    นอกจากความรู้ เชาวน์ และความขยันขันแข็ง บุคลิกภาพเป็นสิ่งสำคัญยิ่งอีกอันหนึ่งที่ทำให้คนบรรลุความสำเร็จในอาชีพการงานต่าง ๆ คนที่พยายามที่จะสำเร็จเป็นฤาษีชีไพรเท่านั้นที่ไม่ต้องให้บุคลิกภาพเข้าช่วย เพราะอยู่นอกสังคม
    สมมติว่าคนคนหนึ่งมุ่งหวังจะมีความสำเร็จในการงาน เช่น การค้าหรือการปฏิบัติราชการในบางแผนก คน ๆ นี้ต้องพบกับคนนานาชนิดอยู่เป็นประจำ เขาจะต้องพยายามให้คนเหล่านี้มีปฏิกิริยาที่ดีต่อเขาและที่เป็นประโยชน์ต่อการงานของเขา เขาจะต้องทำให้ผู้บังคับบัญชาเห็นว่าเขาสมควรได้เลื่อนตำแหน่งหรือได้เงินเดือนขึ้น ถ้าการกระทำเช่นนี้ในครั้งแรกไม่สมหวัง เขาจะต้องดัดแปลงแต่งปรุงปฏิกิริยาส่วนรวมของเขาใหม่ เพื่อให้บุคลิกภาพของเขานำความสำเร็จมาให้ตามความปรารถนา ถ้าลองนึกดูให้ดีแล้ว คนทุกคนตกอยู่ในขบวนวิธีดัดแปลงแต่งปรุงบุคลิกภาพอยู่แทบทุกคาบในชีวิต ความเจริญก้าวหน้าของคนอยู่ที่การปรุงแต่งบุคลิกภาพให้เข้ากับสถานการณ์ที่แวดล้อมตนอยู่
    ร่างกายของคนพัฒนาขึ้นเพื่อให้คนสามารถทำงานในหน้าที่ ที่ต้องเปลี่ยนไปตามวัยฉันใด บุคลิกภาพของคนก็ต้องพัฒนาขึ้นให้เหมาะสมแก่สถานการณ์แวดล้อมฉันนั้น พัฒนาการของบุคลิกภาพเป็นผลซึ่งเกิดจากการเรียนและการฝึกหัดในทุกๆด้าน ถ้าเราศึกษาบุคลิกภาพชั้นนำของโลก เช่น ประธานาธิบดีโรสเวลต์ จูเลียส ซีซาร์ จะเห็นได้ว่า อำนาจดึงดูดของบุคลิกภาพของคนเหล่านี้ ประกอบขึ้นด้วยพฤติกรรมต่างๆ ที่คนเหล่านี้ค่อยๆ ฝึกทำไปจนเป็นนิสัย นอกจากนี้เราจะเห็นได้ว่า ในระยะต้นๆ ของชีวิตของบุคคลเหล่านี้ เขาได้ดัดแปลง แต่ง ปรุง แบบสวนกับปฏิกิริยาต่าง ๆ อยู่เสมอ แบบอันไหนที่ไม่เหมาะและไม่นำความสำเร็จมาให้ คนเหล่านี้ก็ทิ้งเสีย และแต่ง ปรุงอันใหม่ ๆ ขึ้นมาเสมอ บุคลิกภาพของดาราภาพยนตร์คนสำคัญต่าง ๆ ก็ไม่คงที่ ต้องเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับความต้องการของมหาชนอยู่เสมอ


    อิทธิพลของพฤติกรรมและท่าทีความรู้สึกของผู้อื่นกับบุคลิกภาพของเรา

    ขณะที่เราเที่ยวไปตักเตือนท้วงติงแก้ไขลักษณะของผู้อื่น เราเองต้องตรวจดูปฏิกิริยาของผู้อื่นที่มีต่อบุคลิกภาพของเราพร้อมกันไปด้วย คนโดยส่วนมากเข้าลักษณะผงเข้าตาตัวเองมองไม่เห็น การที่เราจะรู้สึกสำนึกในสิ่งบกพร่องในบุคลิกภาพของเราเองนั้น ยากเสียยิ่งกว่าเห็นสิ่งบกพร่องในบุคลิกภาพของผู้อื่นอีก เพราะคนแทบทุกคนบูชาตัวเองและลำเอียงเข้ากับตัวเอง อย่างไรก็ดีคนที่ฉลาดย่อมชั่งปฏิกิริยาของผู้อื่นที่มีต่อบุคลิกภาพของตน และถ้าปฏิกิริยาของผู้อื่นไม่เป็นไปในทางที่ดีต่อตนแล้ว ตนย่อมสำรวจบุคลิกภาพและแก้ไขสิ่งทีบกพร่องเสีย
    โดยทั่วไปถ้าปฏิกิริยาของผู้อื่นเป็นไปในทางดีต่อเรา บุคลิกภาพของเราก็ย่อมเป็นชนิดดี โดยทางตรงกันข้ามถ้าปฏิกิริยาของผู้อื่นเป็นไปในทำนองไม่ดีต่อเรา ก็แปลว่าเรามีข้อบกพร่องในบุคลิกภาพของเรา เมื่อเป็นเช่นนี้งานอันแรกของเราก็คือการสืบค้นดูว่าลักษณะใดในบุคลิกลักษณะของเรา เป็นสาเหตุให้เกิดปฏิกิริยาในทำนองไม่ดีต่อเรา เราควรแก้ไขหรือกำจัดลักษณะนั้นเสีย ลักษณะใดที่เกิดจากนิสัย เราต้องแก้โดยการฝึกเพื่อลบล้างความเคยชินออกเสีย ซึ่งไม่ใช่ของง่ายนัก
    อย่างไรก็ดี ความยากของเรื่องนี้อยู่ที่การจับเค้าเงื่อนในปฏิกิริยาของผู้อื่น ถ้าทุกคนปล่อยปฏิกิริยาออกไปตรงตามความคิดของตน จะไม่เป็นการยากที่จะตรวจค้นดูว่าบุคลิกภาพของเขาบกพร่องไปหรือเปล่าและในลักษณะไหน แต่มรรยาทอันดีงามไม่ยอมให้คนปล่อยปฏิกิริยาของตนออกไปตามความรู้สึกนึกคิดเสมอไป ถ้าเราต้องการจะคะเนความรู้สึกนึกคิดของผู้อื่นให้จงได้แล้ว เราต้องพยายามสังเกตเค้าเงื่อนที่มักจะเล็ดลอดออกมาเล็กน้อยเสมอในพฤติกรรมทั่วๆ ไป ถ้าเราหัดสังเกตอยู่เสมอเราจะทราบจากเค้าเงื่อนเล็กน้อยนี้ได้ว่าเขามีความรู้สึกนึกคิดอย่างไร
    เราได้ทราบแล้วว่า เค้าเงื่อนแห่งความรู้สึกนึกคิดมักเล็ดลอดออกมาปรากฏอยู่ในพฤติกรรมทั่วๆ ไปเสมอ ถ้าถึงบทเราเข้าบ้าง เราก็ต้องระวังในเรื่องนี้และต้องฝึกให้ปฏิกิริยาทุกอันในพฤติกรรมต่างๆ สอดคล้องต้องกันให้ราบรื่น คนบางคนปากอย่างหนึ่งใจอย่างหนึ่ง และส่วนที่เป็น “ใจอย่างหนึ่ง” นั้นมักแสดงออกมาเป็นปฏิกิริยาอันใดอันหนึ่งให้คนอื่นเห็น
    ดังนั้นเราอาจจะยุติได้ว่า การที่เราจะดำเนินกุศลบายใด ๆ ของเราให้เป็นผลเราต้องให้ปากและพฤติกรรมสอดคล้องต้องกัน ถ้าคนที่เราชมจับได้ว่าเราไม่ได้ชมเธอด้วยน้ำใสใจจริง เราต้องพยายามตรวจค้นดูว่าเขาจับเราได้ตรงไหน แล้วอย่ายอมให้สิ่งเหล่านี้ปรากฏออกมาอีกในโอกาสหลัง ๆ


    บุคลิกภาพกับการนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน

    ประยุกต์ใช้กับงานด้านการคัดสรรหาพนักงาน (Recruitment)
    ในการคัดเลือกบุคลากรให้มีบุคลิกภาพที่ต้องการนั้นจะมุ่งพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครหลาย ๆ ด้าน ประกอบกันในการคัดเลือก เช่น ความรู้ ทักษะ รูปร่าง สุขภาพ กิริยาท่าทาง การ ควบคุมอารมณ์ และทัศนคติที่มีต่อบุคคลอื่น เป็นต้น การนำมาประยุกต์ใช้นั้นจะเริ่มจากช่องทางการสรรหา การกำหนดรูปแบบใบสมัคร ข้อมูลจากบุคคลอ้างอิง การสัมภาษณ์และการใช้แบบทดสอบบุคลิกภาพ
    กำหนดแหล่งสรรหาพนักงาน
    โดยทั่วไปเรามักจะกำหนดบุคลิกภาพ โดยดูจาก job description เป็นหลัก ว่าตำแหน่งใด ควรมีคุณสมบัติอย่างไร เช่นงานประสานงานต่างประเทศต้องการความถนัดด้านภาษา งานขายต้องมีทักษะด้านการเจรจา เป็นต้น แต่มีปัจจัยอื่นที่ อย่างเช่น คนในองค์การอาจจะมีวัฒนธรรมในการเลือกผู้ร่วมงานที่มีบุคลิกภาพคล้ายตน เช่น จบมหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน จะทำงานเข้ากันได้ดี ผู้คัดเลือก สามารถเลือกช่องทางรับสมัครแบบเจาะจงได้ เช่น รับวิศวกรจากมหาลัยที่ต้องการโดยตรง, การลงโฆษณาใน www.jobdb.com สำหรับงานประสานงานต่างประเทศ ,ตำแหน่งแม่บ้านจากกรมจัดหางาน เป็นต้น
    การกำหนดข้อมูลใบสมัคร
    ในการออกแบบใบสมัคร ควรกำหนดหัวข้อให้ครอบคลุมข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ของผู้สมัครให้สมบูรณ์มากที่สุด โดยเฉพาะข้อมูลที่องค์การธุรกิจต้องการทราบเพื่อประโยชน์สูงสุด และเพื่อความสะดวกแก่ผู้คัดเลือกพิจารณาตัดสินใจ และข้อมูลสำคัญต่าง ๆ นี้ทำให้สามารถประเมินบุคลิกภาพของผู้สมัครได้ด้วย
    ดังที่เราทราบอยู่แล้วว่า บุคลิกภาพ มาจากกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างข้อมูลและ รายละเอียดที่สำคัญ ซึ่งควรมีปรากฏในใบสมัครเพื่อให้ผู้สมัครกรอก เช่น ลักษณะภายนอก เพศ, อายุ, ลักษณะทางร่างกาย เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก สีผิว สีตา สีผม ฯลฯ, เชื้อชาติ, ศาสนา ข้อมูลทางสุขภาพ ฯลฯ สภาพแวดล้อม ภูมิลำเนา สถานภาพของครอบครัว ประสบการณ์ทำงาน การศึกษา งานอดิเรก กิจกรรมทางสังคม ความสามารถพิเศษ ฯลฯ
    เราสามารถคัดเลือกเบื้องต้นได้ตามบุคลิกภาพที่เรากำหนดไว้จากข้อมูลเหล่านี้ได้ เช่น งานแอร์โฮสเตส ต้องการส่วนสูง 160 ขึ้นไป นอกเหนือจากบุคลิกภาพที่ดีให้ความประทับใจกับลูกค้าแล้ว ก็เพื่อสะดวกในการใช้งานอุปกรณ์บนเครื่องบนด้วยด้วย สิ่งที่ควรระวังคือ ข้อมูลในส่วนนี้เราใช้ในการพิจารณาประกอบเท่านั้น ไม่ควรเชื่อถือมากจนเกิดอคติ หรือประทับใจมากเกินไป จะทำให้สิ่งที่เรามองเห็นในตัวผู้สมัครผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงได้
    ข้อมูลจากบุคคลอ้างอิง
    การที่จะได้มาซึ่งข้อมูลจากบุคคลที่อ้างอิง ควรพยายามหลีกเลี่ยงการให้เขียนลงในเอกสารหรือในใบสมัครเพราะอาจเกิดความเกรงใจ หรือความอึดอัดใจระหว่างผู้อ้างอิงกับผู้สมัครได้ จึงอาจได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และทำให้เรามองเห็นบุคลิกภาพของผู้สมัครได้ไม่ชัดเจน ผู้ทำหน้าที่ในการคัดเลือกผู้สมัคร อาจหาข้อมูลโดยไปสัมภาษณ์ หรือโทรศัพท์ไปถามโดยตรงกับบุคคลที่ผู้สมัครได้อ้างอิงไว้ โดยถามถึงส่วนดีของผู้สมัครก่อน ให้บรรยายลักษณะเด่นของผู้สมัคร และประโยชน์ที่บริษัทจะได้จากผู้สมัครรายนั้น จากนั้นจึงถามถึงจุดอ่อนของผู้สมัคร ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่บุคคลทั่วไปจะพึงมีรวมทั้งข้อเสนอแนะในการช่วยเหลือหรือพัฒนาพนักงานผู้นั้น และในกรณีที่ผู้อ้างอิงให้แนวคิดเกี่ยวกับผู้สมัครซึ่งอาจจะเป็นทางบวกมากไปหรือทางลบมากไป ผู้พิจารณาก็ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น